หลายชาติทยอยฉีดวัคซีนต้านเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด-19 แล้ว รวมทั้งไทยที่เพิ่งเริ่มฉีดเข็มแรกในวันที่ 28 ก.พ. ที่ผ่านมา หลังจากเกิดการแพร่ระบาดมาตั้งแต่ปลายปี 2562
แม้ว่ายอดผู้ติดเชื้อทั่วโลกยังคงเพิ่มขึ้น แต่โดยภาพรวมเริ่มมีแนวโน้มดีขึ้นเนื่องจากบางประเทศมียอดผู้ติดเชื้อลดลง อาจจะเป็นด้วยมาตรการต่าง ๆ รวมทั้งการฉีดวัคซีน
อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายเชื่อว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อจริงทั่วโลกจะมีมากกว่าตัวเลขข้างต้นที่รวบรวมโดยเว็บไซต์ Worldmeter.com
- สหราชอาณาจักรอนุมัติการใช้วัคซีนของไฟเซอร์-ไบออนเทคเป็นชาติแรกในโลก
- เปรียบเทียบวัคซีนของ 4 บริษัท
- โควิด-19: การระบาดในเมียนมาขยับประชิดชายแดน ประเทศไทยพร้อมแค่ไหน
- ที่มา อาการ การรักษา และ การป้องกันโรคโควิด-19
บีบีซีไทยรวบรวมข้อมูลที่ควรรู้เกี่ยวกับการระบาดของโรคโควิด-19 มาสรุปในรูปแบบอินโฟกราฟิก เพื่อให้เข้าใจพัฒนาการของวิกฤตโควิด-19 ที่ยังไม่มีใครคาดได้ว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อใด
สถานการณ์ในประเทศไทย
สำหรับสถานการณ์การติดเชื้อในประเทศเริ่มมีแนวโน้มคลี่คลายลง หลังจากเกิดการระบาดระลอกที่ 2 ในช่วงกลางเดือน ธ.ค. 2563 โดยมีรายงานว่า เริ่มต้นระบาดที่ตลาดกลางกุ้ง จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งมีแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก ก่อนที่จะพบในพื้นที่ต่าง ๆ ตามมา ผ่านกลุ่มลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย และเครือข่ายการพนัน
ที่ประชุมศปก.ศบค. วันที่ 3 มี.ค. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) กล่าวว่า สามารถควบคุมสถานการณ์ภาพรวมได้แล้ว และมีวัคซีนเข้ามาประสานต่อเนื่อง ซึ่งต้องเร่งเสริมสร้างเศรษฐกิจให้เดินหน้า ภายใต้สมดุลกันทั้งการผ่อนคลายมาตรการ และความปลอดภัยของประชาชน
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่าที่ประชุมมีการกล่าวถึง กระบวนการฉีดวัคซีนที่ต้องดูแลให้รอบคอบและปลอดภัย เนื่องจากมีการรายงานผลข้างเคียงจากการฉีด ซึ่งมีบุคลากรทางการแพทย์รายหนึ่งเป็นผู้ที่มีการแพ้ยาเพนิซิลิน เมื่อได้รับการฉีดผ่านไปราว 3 ชม. ก็มีอาการของการแพ้วัควีน
โฆษกศบค. กล่าวว่า เมื่อมีการฉีดในจำนวนมากขึ้น ผลข้างเคียงที่อาจจะเจอก็อาจจะเยอะขึ้น ดังนั้นเจ้าหน้าที่จึงต้องทำความเข้าใจ และลดความกังวลสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน
สำหรับสถานการณ์การติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ไทยในรอบ 24 ชั่วโมง จากการรายงานของศบค. วันที่ 3 มี.ค. มีข้อมูลสำคัญดังนี้
พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น 35 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 25 (มาจากระบบเฝ้าระวัง 17 ราย และค้นหาเชิงรุก 8 ราย) รและผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 10 ราย โดยมี 4 ราย เข้ามาทางเส้นทางธรรมชาติจากเมียนมา แต่ตอนนี้เข้าสู่สถานที่กักกันของรัฐแล้ว
ส่วนยอดผู้ติดเชื้อสะสม 26,108 ราย ยังคงรักษาตัว 541 ราย ผู้เสียชีวิตคงที่ 84 ราย
ไทยเริ่มฉีดวัคซีนต้านโควิดแล้ว
หลังจากที่ซิโนแวคจัดส่งวัคซีน “โคโรนาแวค” ล็อตแรกจำนวน 2 แสนโดสถึงไทยเมื่อวันที่ 24 ก.พ. ตามคำสั่งซื้อของรัฐบาลไทย และผ่านการตรวจรับรองจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์แล้ว กระทรวงสาธารณสุขได้เริ่มฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มแรกในประเทศไทย นับตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. ที่สถาบันบำราศนราดูร จ.นนทบุรี เป็นเวลา 4 วัน โดยฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กลุ่มเป้าหมายกลุ่มแรกตามแผนจัดการวัคซีนของคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค
- องค์การอนามัยโลกสั่งระงับการทดลองใช้ยาต้านมาลาเรีย “ไฮดร็อกซีคลอโรควิน” กับคนไข้โควิด-19
- วัคซีนอาร์เอ็นเอที่กำลังทดลองในสหรัฐฯ มีหวังใช้ได้ผล หลังพบสารภูมิต้านทานป้องกันโควิด-19 ในอาสาสมัครหลายคน
- ไทยเริ่มทดสอบวัคซีนโควิด-19 ในลิงแล้ว ก่อนทดสอบในคนเดือน ส.ค. นี้
สำหรับวัคซีน 2 แสนโดสล็อตแรกของซิโนแวคจะถูกกระจายไปใน 13 จังหวัดที่ ศบค. ประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สมุทรสาคร) พื้นที่ควบคุม (กทม.ฝั่งตะวันตก, ปทุมธานี, นนทบุรี, สมุทรปราการ, อ.แม่สอด จ.ตาก, นครปฐม, สมุทรสงคราม และราชบุรี) และพื้นที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม (ชลบุรี, ภูเก็ต, เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และ เชียงใหม่) โดยให้อำนาจกับคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเป็นผู้พิจารณาผู้ที่เหมาะสมในการฉีด
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะเป็นผู้ติดต่อผู้ที่เข้าเกณฑ์และอยู่ในกลุ่มเป้าหมายเพื่อให้มารับวัคซีน โดยกลุ่มเป้าหมาย 4 กลุ่มแรกที่จะได้รับวัคซีน ประกอบด้วย
- บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้าทั้งภาครัฐและเอกชน
- ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคทางเดินหายใจเรื้อรังรุนแรง, โรคหัวใจและหลอดเลือด, โรคไตเรื้อรังระยะ 5 ขึ้นไป, โรคหลอดเลือดสมอง, โรคมะเร็งทุกชนิดที่อยู่ระหว่างเคมีบำบัด, โรคเบาหวาน, โรคอ้วนที่มีน้ำหนักมากกว่า 100 กก. ขึ้นไป
- ผู้มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป
- เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมโรคโควิด-19 ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย
พบบุคลากรทางการแพทย์มีผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์หลังฉีดวัคซีน
ผ่านไปแล้ว 3 วันนับตั้งแต่ไทยเริ่มฉีดวัคซีนเข็มแรก นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า การติดตามเรื่องความปลอดภัยหลังการฉีดเป็นประเด็นสำคัญ จากรายงานการเฝ้าระวังเหตุไม่พึงประสงค์นั้น พบผู้ที่มีอาการทั้งที่รุนแรงและไม่รุนแรงรวมแล้ว 20 ราย
อธิบดีกรมควบคุมโรค ให้ข้อมูลว่า มีผู้ที่ได้รับวัคซีนรายหนึ่งเป็นหญิง อายุ 28 ปี ซึ่งเป็นบุคลากรทางการแพทย์ ที่พบมีอาการรุนแรง โดยในตอนแรกจากการเฝ้าระวังอาการหลังการฉีด 30นาทียังปกติ แต่เมื่อเวลาผ่านไปราว 4-5 ชม. เริ่มคลื่นไส้ อาเจียน ก่อนจะมีการตรวจพบมีความดันโลหิตต่ำ เมื่อทำการรักษาโดยการฉีดยาอะดรีนาลีนแล้วอาการดี ขณะนี้ปลอดภัยแล้ว
นอกจากนั้นอีก 19 ราย นพ.โอภาส กล่าวว่า เป็นผู้ที่มีอาการไม่รุนแรง รายหนึ่งมีอาการอักเสบบริเวณที่ฉีด รายอื่น ๆ มีอาการคลื่นไส้ ปวดเมื่อย และที่เหลือส่วนใหญ่มีอาการเหนื่อย
โดยในการฉีดวัคซีนหากเกิดการแสดงอาการที่ไม่พึงประสงค์เช่นนี้ก็จะมีการรวบรวมข้อมูล เข้าที่ประชุมอย่างเร่วด่วน โดยเบื้องต้นก็ยังคงดำเนินการตามปกติ โดยจะเน้นสิ่งสำคัญคือการเฝ้าระวังหลังการฉีด 30 นาที ซึ่งโดยส่วนใหญ่หากมีอาการจะปรากฏรุนแรงภายใน 15 นาที หากนานกว่านั้นมักเป็นอาการเล็กน้อย รักษาได้ทัน
นับตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. ถึง 2 มี.ค. มีผู้ได้รับวัคซีนไปแล้ว 7,262 ราย โดยส่วนใหญ่เป็นบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข 6,784 ราย เจ้าหน้าที่ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย 365 ราย บุคคลที่มีโรคประจำตัว 22 ราย และประชาชนในพื้นที่เสี่ยง (เบื้องต้นเป็นแม่ค้าพ่อค้าในพื้นที่ตลาด จ.สมุทรสาคร และปทุมธานี) 91 ราย

สถานการณ์รอบโลก
สำหรับสถานการณ์รอบโลกยังคงมีอัตราการเพิ่มขึ้นของผู้ป่วยรายใหม่ยังสูงกว่า 3 แสนรายต่อวัน โดยล่าสุดยอดผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มขึ้น 115 ล้านคน ส่วนยอดผู้เสียชีวิตทะลุ 2.5 ล้านรายแล้ว
สหรัฐอเมริกายังเป็นประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อสะสมและผู้เสียชีวิตมากที่สุดในโลก คือ กว่า 29.37 ล้านราย เสียชีวิต 5.29 แสนราย ตามมาด้วยอินเดีย บราซิล รัสเซียและสหราชอาณาจักร
- เหตุใดเอกวาดอร์จึงเผชิญวิกฤตไวรัสโคโรนารุนแรงที่สุดในลาตินอเมริกา
- เปิดชีวิตคนไทยในสหรัฐฯ อิตาลี อังกฤษ กับการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
ส่วนในภูมิภาคเอเชียมีแนวโน้มลดลงอย่างชัดเจน อย่าง มาเลเซียมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,555 ราย เมียนมา 49 ราย จีน 11 ราย สิงคโปร์ 8 ราย เป็นต้น


